วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2558

[ % ] - After mid night

ยังอยู่ในเนื้อเรื่องรูท [ % ] ค่ะ ต่อจาก [ % ] - In 10 minutes และ [fic] 50% by Oni

------------------------------------------ อายะมองโทรศัพท์มือถือที่ปิดลง แล้วหันไปทางรถหรูที่แล่นไป ดวงตานั้นราวกับจับจ้องบางอย่างอยู่ก่อนจะหันกลับมาทางลุงขายรามเมนที่ยังยืนอึ้งอยู่ไม่หาย พร้อมได้ยินเสียงบ่นพึมพำว่า เพิ่งจะเคยเจอลูกค้าใส่สูท นั่งรถหรูมากินราเมนรถเข็น  ชายหนุ่มผมสีทองยิ้มน้อยๆ ก่อนจะจ่ายเงินค่าอาหาร แล้วจากไปเพื่อขึ้นรถไฟ

ขาเรียวก้าวลงจากสถานีรถไฟเพื่อเดินทางกลับบ้าน ช่วงนี้เคย์โกะไป “ ทำงาน ” มันคล้ายเป็นการเปิดช่องให้หงเย่ใช้งานเค้า ถึงจะไม่ค่อยชอบใจเพราะเหมือนโดนผู้ปกครองกลายๆ บังคับ แต่ก็บอกได้เลยว่าเค้าไม่สามารถขัดขืนหงเย่ได้ เนื่องจากหลายๆอย่าง ทั้งตำแหน่งผู้ปกครอง และทั้งความเก่งกาจนั้น….


เด็กหนุ่มหยุดชะงักที่บ้านญี่ปุ่นชั้นเดียว มือล้วงเอากุญแจออกมาไขเพื่อจะเข้าไปในบ้าน ทางเดินด้านในมืดสนิท ทางเดินริมสวนมีแค่แสงจันทร์จากฟากฟ้าเท่านั้นที่ช่วยให้อายะพอมองเห็นทาง ขาเรียวรีบก้าวไปยังห้องนอนที่อยู่ด้านใน เพราะก็ดึกมากแล้ว ยิ่งพรุ่งนี้เป็นวันเรียนทำให้เค้าต้องตืนแต่เช้าเพื่อไปรับฮารุที่บ้านใหญ่
อีกแค่ไม่กี่ก้าวก็จะถึงห้องนอน จู่ๆอายะรู้สึกเหมือนโลกหมุน รับรู้ความรู้สึกผิดปกติที่ขา และความเจ็บจุกจากการกระแทกพื้น เด็กหนุ่มรีบลุกขึ้นนั่งทันที เมื่อดวงตาโฟกัสได้จึงเห็นชายหนุ่มผมสีดำตาคม ยืนยิ้มอยู่


…ไม่ต้องเดาเลย…


“ หงเย่….? ”
“ ใช้ไม่ได้นะ อายะ ไม่ระวังตัวเอาซะเลย ”  เด็กหนุ่มหน้ามุ่ย เมื่อรู้ตัวว่าโดนคนตรงหน้าแกล้งซะแล้ว
“ คุณก็เลิกมาจู่โจมผมในบ้านซักที ไม่งั้นผมจะฟ้องเคย์โกะ ”
“ เธอก็เก่งขึ้นให้ได้ก่อนซิ เรื่องจะได้ไม่ถึงเคย์โกะ ” คำพูดยอกย้อนพร้อมร้อยยิ้มกวนๆส่งมาให้ ยิ่งทำให้หน้าของเด็กหนุ่มมุ่ยลงไปอีก การกระทำของหงเย่แบบนี้จะว่าเป็นการทดสอบก็ไม่เชิง แต่ชอบมาเล่นทีเผลอ จู่โจมเค้าอยู่เรื่อย
แล้วเค้าที่เด็กกว่าจะเอาอะไรไปสู้กับนักฆ่ามือพระกาฬได้ละ ถึงบางทีจะโมโหจนโต้ตอบแล้วก็เป็นตัวเองที่ต้องเจ็บตัวซะมากกว่า
“ งานครั้งนี้ก็ขอบใจนะ ไม่งั้นกว่าจะได้ข้อมูลมาก็คงลำบาก ” ชายหนุ่มผมดำนั่งลง พลางส่งยิ้มมาให้
“ ลำบากมากสิครับ เกือบออกมาไม่ได้ ”
“ แต่ก็ออกมาได้ไม่ใช่เหรอ ” รอยยิ้มถูกส่งมาให้ เหมือนบอกเป็นนัย อายะยังทำหน้านิ่ง แต่ในใจนึกสงสัยหงเย่ว่าที่บอกว่ารอข้างนอกน่าจะไม่ใช่ละ
“ คุณรู้จักเค้าด้วยเหรอ ”
“ หายากนะเนี่ยที่เธอจะสนใจคนอื่น ”
“ ก็ผมต้องเอาเสื้อไปคืน ”
ทีนี้ละ ไอ้รอยยิ้มยียวนเหมือนจะรู้อะไร นั้นชวนให้อายะอยากจะหาอะไรมาปิดนัก แต่ก็ได้แต่คิดละนะ
“ ลูกชายคนรองของท่านทูตจากเยอรมัน….ก็..ไม่มีอะไรน่าห่วง ” เด็กหนุ่มเลิกคิ้วให้กับคำว่า “ ไม่มีอะไรน่าห่วง ”
มองในอีกมุมนึงการปรากฎตัวของลูกชายท่านทูตในงานเลี้ยงของคนดังในแวดวงสังคมไม่ใช่เรื่องแปลก ถึงจะโผล่มาในงานที่หงเย่เข้าไปขโมยข้อมูลธุรกิจของนักธุรกิจคนนึงก็เถอะ
……..มันจะไม่เป็นไรจริงหรือ?.........
“ ก็รู้หรอกว่าลูกเราหน้าตาดี นี่ไม่นึกว่าถึงขั้นมีคนหล่อ รวยมาจีบ…. ”
“ หงเย่…. ”
“ ถ้าคนนี้คุณพ่อโอเคนะ ” ชายหนุ่มผมดำหัวเราะอย่างชอบใจ เมื่อเห็นดวงตาวาวโรจน์ที่บ่งบอกความโกรธได้เป็นอย่างดี มือเอื้อมจะไปโอบไหล่เด็กหนุ่ม แต่อายะดีดตัวขึ้นพร้อมถอยห่างออกไป เรียกสีหน้าแปลกใจเป็นคำถามจากหงเย่ และมีแต่แววตาไม่พอใจตอบกลับมาเท่านั้น
“ อายะ…. ”
“ ผมง่วงแล้ว ขอตัวก่อน ” ร่างเพรียวของเด็กหนุ่มเดินหายไปกับความมือก่อนที่หงเย่จะได้ยินเสียงปิดประตูเบาๆ ใบหน้าเงยมองพระจันทร์ที่กำลังถูกเมฆบดบัง
“ ฮิฮิ เรื่องมันชักจะเริ่มสนุกแล้วละ ”


------------------------------------------


เด็กหนุ่มผมสีทองยินอยู่ภายในห้อง ดวงตาเบนไปที่ประตูก่อนจะถอดถอนใจ เมื่อสักครู่เค้าเพิ่งปฏิเสธหงเย่ ตอนที่ขอตัวเดินออกมา เค้ารู้สึกถึงรังสีอำมหิตได้เลย การที่ชายหนุ่มไม่ตามมาและไม่ว่าอะไรนั้นทำให้เค้าโล่งใจ ไม่รู้ไปสืบมาถึงไหน


…..ทางที่ดีเค้าควรจะตัดไฟเสียแต่ต้นลม…..


มือเรียวหยิบมือถือออกมาจากแจ๊กเกตสีน้ำเงินเข้ม นิ้วดันฝาพับให้เปิดขึ้น กดไปที่ข้อความล่าสุด อายะมองข้อความนั้นอย่างชั่งใจ……..ก่อนจะปิดมือถือวางไว้บนโต๊ะก่อนจะล้มตัวลงนอน
เปลือกตาปิดลง


…..ลองดูท่าทีซักพักก่อนก็ได้…….

----------------- End ------------------

ขอย้ำตรงนี้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างหงเย่กับอายะก็เป็นไปแบบพ่อ-ลูก เท่านั้น ไม่มีอะไรในกอไผ่ทั้งสิ้น ฮา แต่ว่าไม่รู้จะงงตอนจบมั้ย พยายามจะเขียนให้เคลียร์ แต่ก็บอกหมดไม่ได้ ก็เลยต้องเป็นแบบนี้แหละ
มันยังติดอยู่ในหัวนิดหน่อยเลยขอเขียนอีกนิด มี hint เล็กน้อยคือ ในรูทหลัก หงเย่ก็เคยเล่นทีเผลออายะมาแล้ว (แต่อายะรู้สึกตัวก่อน) แล้วหงเย่ก็พูดถึงสมัยก่อนที่อายะยังไม่เก่งเท่าไหรก็มักจะโดนเล่นทีเผลอแบบนี้แล ^^!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น