ตอนที่ 2
“ ดูเหมือนนายจะถูกส่งไปทำภารกิจ ” หนึ่งหยดแดงนั่งฟังรายละเอียดของงานนั้น เป็นงานที่ท่าจะยากทีเดียว ต้องแฝงตัวเข้าไป และใช้เวลานานในการเข้าถึงเป้าหมาย หนึ่งหยดแดงหยิบเอกสารและรูปภาพของเป้าหมายขึ้นมาดู …...ยังเด็กอยู่เลยนะ……
“ ไม่ใช่คนนี้ คนนี้ต่างหาก ” มือของฝ่ายข้อมูลดึงรูปคืน ก่อนจะยื่นรูปถ่ายอีกรูปให้ เด็กหนุ่มหน้าละอ่อนในชุดนักเรียน กำลังเดินอยู่กับเด็กหนุ่มในรูปถ่ายเมื่อครู่
“ลูกของอดีตนักการเมืองชื่อดัง การจ้างวานคือฆ่าโดยให้ดูเป็นอุบัติเหตุ ”
“ ฮืม แล้วนี่ใครกัน ” ความสงสัยยังไม่จางหาย มือชี้ไปยังรูปถ่ายแรกสุดที่ถูกดึงไป อีกฝ่ายถอนหายใจเล็กน้อย
“ อ้าว ไม่รู้จักเหรอ คุณชายไป๋ทู่ไง ทายาทเจ้าของเครือโรงแรมใหญ่ไง ถึงยังเด็กแต่ความคิดความอ่านเรื่องการบริหารนี่เก่งเข้าขั้นเลยนะ ”
“ เก่งขนาดนี้ก็เลยเป็นจุดเด่นยังไงละ ไม่แน่ต่อไปเจ้าเด็กนี่ก็อาจจะเป็นเป้าหมายของนายก็ได้นะ ” หนึ่งหยดแดงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ในโลกของการทำธุรกิจก็ไม่แพ้โลกของนักฆ่า เพียงแต่พวกเค้าไม่ฆ่าเอาชีวิต แต่ทำลายชีวิตด้วยอย่างอื่นเป็นส่วนใหญ๋ ใครล้มคือผู้แพ้
และผู้แพ้นั้นอาฆาตพยาบาทยิ่งนัก
“ อ้อ ใช้แล้ว หมื่นบุปผากลับมาแล้วนะ ”
“ หมื่นบุปผากลับมาแล้วงั้นเหรอ ” ชายหนุ่มถามอย่างประหลาดใจ เมื่อพูดถึงนักฆ่าที่งดงามที่สุด และประหลาดที่สุด
“ใช่แล้ว ดูเหมือนต้องการจะให้ฝึกนักฆ่าคนใหม่น่ะ เจ้าเด็กนั้นฝืมือดีทีเดียว ” เมื่อพูดถึงคำว่าเด็กทำให้เด็กหนุ่มคิดถึงเด็กทารกนั้นขึ้นมาอีกครั้ง
ป่านนี้จะเป็นยังไงนะ น่าจะเริ่มโตจนเดินได้แล้ว ดวงตากลมโตเหมือนลูกแก้วนั้นจะจับจ้องสิ่งใดกันนะ
หนึ่งหยดแดงผละจากนักส่งข้อมูล ฝั่งตรงข้ามทางเดินมีชายหนุ่มผู้งดงามคนนึงกำลังเดินมา ผมยาวสยายยามต้องลม ท่วงท่าการเดินไม่ขัดกับไม้เท้าคนตาบอดในมือเลยซักนิด แต่บรรยากาศรอบตัวเฉียบคมมาก จนถึงกับผงะ เมื่อชายหนุ่มคนนั้นเดินเข้ามาหยุดใกล้ๆหนึ่งหยดแดง
“ หนึ่งแยดแดงงั้นเหรอ ไม่ได้พบกันเสียนาน ” ทั้งๆที่ไม่ได้ส่งเสียงออกไป แต่อีกคนกลับรู้ว่าใครยืนอยู่ หนึ่งหยดแดงรู้สึกครั้มคร้ามคนตรงหน้า นักฆ่าอันดับหนึ่งของสวน “ หมื่นบุปผา ”
กลุ่มผมสีแดงที่อยู่ด้านหลังหมื่นบุปผาขยับไหว เรียกควมสนใจให้มองได้เป็นอย่างดี เด็กหนุ่มหน้าตาดี ยืนนิ่งอยู่หลังนักฆ่าตาบอด
“ เด็กคนนี้... ”
“ อ้อ ทักทายเค้าหน่อยสิ ” เด็กหนุ่มวัยสิบกว่า แววตาเฉยเมย หันมามองเค้าก่อนจะก้มลงเล็กน้อย
“ ดีมาก ”
“ ไม่น่าเชื่อว่านายจะเลี้ยงเด็กได้ ”
“ คนเรามันก็ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงกันบ้าง…..จริงไหม? ” ดวงตาที่ไม่สามารถจับจ้องสิ่งใดเสมาทางที่หนึ่งหยดแดงยืนอยู่ เด็กหนุ่มรู้สึกเหมือนกำลังโดนอีกฝ่ายจ้องมองทั้งๆที่มันเป็นไปไม่ได้
“ ฮึๆ เห็นอย่างนี้ฉันก็รักเด็กนะ และบางทีนี่อาจจะเป็นคนสุดท้าย... ”
“ คนสุดท้าย? ”
“ ใช้แล้ว ดูเหมือนองค์กำลังทำอะไรบางอย่างอยู่ นายคิดว่าอย่างนั้นมั้ย? ” รอยยิ้มชวนมองนั้นปรายมา จนหนึ่งหยดแดงรู้สึกสังหรณ์ใจว่าคนตรงหน้านี้ไปรู้เรื่องอะไรมาหรือเปล่า โดยเฉพาะเรื่องที่เค้าคิดจะทำ….ในอนาคต
“ โชคดีนะ หนึ่งหยดแดง ”
นั้นเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เห็น “ หมื่นบุปผา ” เพราะหลังจากนั้นสามปีก็มีข่าวลือว่า หมื่นบุปผานั้นหนีไปจากองค์กร แต่อีกคำร่ำลือนึงก็คือภารกิจผิดพลาดจนโดนฆ่าตาย แต่ไม่ว่าจะข่าวไหนล้วนตรงกันเรื่องเดียวคือ ไม่พบศพของหมื่นบุปผา และหลังจากนั้นไม่นานลูกศิษย์คนสุดท้ายและนักฆ่าคนใหม่ก็ถือกำเนิดขึ้น ฝีมือและพรสวรรค์ในการฆ่านั้นไร้ที่ติจนได้ขึ้นเป็นอันดับ 1 ขององค์กร “ ไร้บุปผา ” (บ้อฮวย)
หนึ่งหยดแดงมองรูปภาพหลายใบบนโต๊ะ และสิ่งที่ทำให้เค้าตกใจมากที่สุดก็คือ ภาพเด็กผู้หญิงคนนึง เค้าจำได้แทบจะในทันที เด็กทารกคนนั้น ลูกของเค้า คาดคะเนจากรูปร่างหน้าในภาพถ่าย ตอนนี้น่าจะอายุได้สามขวบ ดวงตากลมโตแฝงแววขี้เล่น
“ เด็กเหล่านี้กำลังจะเข้ารับการฝึก ”
ว่ายังไงนะ!
หนึ่งหยดแดงรู้สึกเหมือนหัวใจหยุดเต้น เด็กหนุ่มเข้าใจดีว่าการฝึกฝนที่ว่าคืออะไร และเด็กคนนี้กำลังจะกลายเป็นอะไร
กำลังจะกลายเป็นเหมือนเค้า มือเล็กๆคู่นั้นจะต้องเปื้อนเลือด ต้องมองโลกเป็นสีเทาตลอดกาล
ไม่! เค้าจะไม่ปล่อยให้เกิดขึ้นโดนเด็ดขาด
ความคิดแสนอันตรายที่เคยเก็บงำไว้เริ่มเผยตัวตนออกมา
เค้าตัดสินใจแล้ว
ภายในคฤหาสน์หลังงาม ยามค่ำคืนที่ไร้แสงจันทร์ ค่ำคืนที่นักฆ่าลงมือ
โครม! ชายหนุ่มถูกเตะเข้ามายังอีกห้องนึง หนึ่งหยดแดงรีบลุกขึ้นทันที ถึงอีกคนจะอายุน้อยกว่าแต่ฝีมือนั้นไม่ใช่เลย ดูท่ากระต่ายขาวตัวนี้จะเก่งใช่เล่น
“ จะต่อรองกับผมเหรอ ”
“ ใช่ ฉันจะเป็นสายให้นาย ทำงานให้นาย ”
“ นักฆ่านี่เชื่อไม่ได้หรอกนะ ยิ่งจะทรยศองค์กรด้วย ” เป็นเสียงนุ่มติดแหลมของเด็กหนุ่มอีกคนที่เดินตามเข้ามา มือเรียวนั้นกระชับปีนในมือ แล้วเล็งมาทางหนึ่งหยดแดงที่กำลังลุกขึ้น
“ ลวี่ลู่…. ”
“ โดยเฉพาะนักฆ่าที่จะมาฆ่าชั้นน่ะ ” มือขยับขึ้นไกแล้วจ่อมาทางชายหนุ่มนักฆ่า เด็กหนุ่มแทบไม่อยากจะเชื่อว่าท่านลุงที่เค้าเคารพจะฆ่าเค้าเพียงแค่ว่าเค้าไปสนิทกับศัครูทางธุรกิจอย่างไป๋ทู่
“ จะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่นาย ”
“ ข้อแลกเปลี่ยนละ ”
“ไป๋ถู่ ” ลวี่ลู่หันไปเตือน
“ นายจะต้องอุปการะเด็กคนนึง ” หนึ่งหยดแดงหยิบรูปถ่ายออกมาแล้วยื่นให้
“ เด็กคนนี้เป็นใคร ถึงสำคัญกับนายนัก ” สองสายตาประสานกัน ก่อนที่หนึ่งหยดแดงจะตอบออกมา
“ เป็นลูกของฉันเอง ”
“ 55555 นักฆ่าที่จะทรยศองค์กรเพื่อลูกงั้นเหรอ น่าสนุกดีนี่ ”
“ แต่ว่าจะให้เชื่อใจก็คงยากนะ ”
“ รอดูข่าวพรุ่งนี้ได้เลย ”
ในเช้าวันต่อมาไป๋ทู๋อ่านหนังสือพิมพ์แล้วสะดุดกับข่าวหน้า 1 แต่เป็นกรอบเล็กๆที่รายงานข่าวเรื่องนักการเมืองเก่าที่เกษียณจากงานแล้วประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิตคาที่
เด็กหนุ่มแย้มรอยยิ้มเล็กน้อยก่อนจะยกถ้วยชาขึ้นดื่ม
การเจรจาสำเร็จด้วยดี แต่การนำตัวเด็กหญิงออกมานั้นยากยิ่งกว่า ถึงต้องการจะพาตัวออกมาแต่องค์กรจะต้องรู้และเด็กสาวจะต้องโดนตามล่า เค้าต้องการจะลบอดีต ลบทุกอย่าง เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีใครรู้เรื่องของเด็กสาว การเตรียมการนั้นจึงยากยิ่ง เมื่อชายหนุ่มจะต้องไม่แสดงพิรุธออกมา
ทำให้ต้องใช้เวลาถึง 2 ปี และเป็น 2 ปีที่หนึ่งหยดแดงใช้กำลังทั้งหมดยื้อเรื่องภารกิจแรกของเด็กหญิงไว้ แต่ก็ไม่สำเร็จ เด็กหญิงนั้นโดนพาไปรับการฝึกฝนแล้ว ในตอนนั้นชายหนุ่มเสียใจมาก เค้าจำไม่ได้ว่าออกจากองค์กร เดินกลับที่่ห้องตัวเองได้ยังไง ข้าวของในห้องพังได้อย่างไร เค้าเสียใจมาก
แต่ว่า…..ยังมีโอกาส
โอกาสมาถึงเมื่อภารกิจแรกของเด็กหญิงคือการลอบเข้าไปฆ่า โดยมีหนึ่งหยดแดงเป็นพี่เลี้ยงนั้นเอง
มันเป็นความผิดพลาดหรือโชคชะตาที่เจ้าของสวนทั้งสาม ไม่ได้ใส่ใจ เพราะคิดว่าเค้าคงจะไม่รู้ คิดว่าเด็กหญิงคนนี้เป็นแค่เด็กที่ถูกพามาเพื่อฝึกเป็นนักฆ่า
คิดว่าไม่รู้ว่า เด็กคนนั้นเป็นลูกสาวของเค้า
การเตรียมการมากมายก็เพื่อวันนี้ เมื่อเด็กหญิงเข้าไปในห้องเป้าหมายแล้วก็ต้องแปลกใจเพราะห้องนั้นไม่มีอะไรเลย เป็นห้องธรรมดา ในขณะที่รูสึกว่ามีใครอยู่ข้างหลัง แล้วมีมือมาปิดปาก เด็กหญิงดิ้นรนอย่างแรงเป็นการเปิดโอกาสให้ยาสลบเข้าไปในร่างกายง่ายขึ้น
ชายหนุ่มมองเด็กหญิงที่สลบไปก่อนจะอุ้มขึ้นมา เสียงเคาะประตูดังขึ้น เมื่อเดินไปเปิดก็เจอป้าแม่บ้านยืนอยู่
“ รูมเซอร์วิสค่ะ คุณชายโทรไปใช่มั้ยคะ ” ประโยคที่บอกเป็นนัยทำให้รู้ว่าเป็นคนของคุณชายนั้น ชายหนุ่มยื่นเด็กให้แต่โดยดี คุณป้าหย่อนเด็กลงในตะกร้าผ้า ก่อนจะเข็นออกไป หนึ่งหยดแดงเดินไปที่ทางเดินอีกทางหนึ่ง รอจนได้ยินเสียงปีนสามนัด จึงเลี้ยวออกมาวิ่งไปที่ห้องเป้าหมายเปิดประตูเข้าไป หยิบเข็มออกมาพุ่งเข้าไปเสียบทะลุสมองในทีเดียว ชายร่างใหญ่ล้มลงกับพื้น ชายหนุ่มงัดใต้เตียงออกมาพบห่อพลาสติด เมื่อเปิดออกมาก็มีศพเด็กผู้หญิงที่รูปร่างอายุใกล้เคียงกับเด็กหญิงคนนั้นมาก
ก่อนจะจุกไฟ แล้วรีบเดินออกมา
ทุกอย่างเสร็จสิ้น เค้าได้รับคำยืนยันจากคุณชายกระต่ายขาวว่าได้รับอุปการะเด็กสาวไว้แล้ว
แต่เรื่องยุ่งยากขึ้น เมื่อไม่รู้คุณชายถูกใจอะไรนักถึงกับรับมาเป็นน้องสาว อาจจะแค่อยากจะเก็บเด็กหญิงเอาไว้เพื่อเป็นตัวประกันไม่ให้เค้าทรยศ ถึงเค้าจะขัดใจแต่ไม่อาจต่อต้านได้ ข้อมูลเด็กหญิงถูกสร้างขึ้นมาอย่างดี เป็นลูกนอกสมรสของเจ้าของธุรกิจการโรงแรมหรือพ่อของคุณชายนั้นเอง
และเด็กหญิงได้รับชื่อ
….เซียวอั๊ง….
หลังจากนั้นเค้าก็กลับไปยังองค์กรเพื่อรายงานว่าเด็กหญิงตายแล้ว แต่ภารกิจสำเร็จ เจ้าของสวนทั้งสามดูเสียดายเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะมีเรื่องใหญ่กว่านั้น เรื่องที่ช่วงนี้งานขององค์กรสะดุดมาก จนหนึ่งหยดแดงก็ยังรู้สึกได้
….หนอนบ่อนไส้….
นั้นคือสิ่งที่หนึ่งหยดแดงคิด ถ้าถามว่าใครคือหนอน ก็เป็นตัวเค้านี่เอง แต่เค้าลอบส่งข้อมูลให้คุณชายไป๋ถู่เท่านั้น แต่ดูเหมือนข้อมูลอื่นๆ จะรั่วไปหลายทาง จนสุดท้ายยากจะคาดเดาว่าใครเป็คนปล่อยข่าว แต่ดูเหมือนเจ้าของสวนทั้งสามจะมีเป้าหมายในใจแล้ว
“ หมื่นบุปผายังไม่ตาย ”
“ ถ้าเป็นเด็กนั้นละก็ เป็นไปได้มาก ” เสียงแหบๆดังขึ้นจากอีกด้าน
“ เราจะส่งนักฆ่าที่เก่งที่สุดไป ”
ให้ลูกศิษย์ฆ่าอาจารย์ สมเป็นยัยป้าอำมหิตทั้งสามจริงๆ
งานนั้นสำเร็จ ไร้บุปผา หายไปเป็นเดือน จนเจ้าของสวนต้องไปตามจับกลัมา แต่ก็เสียมือดีไปเยอะ
และคราวนี้เป้นเค้านั้นเองที่ได้รับมอบหมายหน้าที่แสนอันตรายนี้
ผมสามารถพาไร้บุปผากลับมาได้
และได้รับคำยืนยันมาจากเจ้าตัวว่า หมื่นบุปผาตายแล้วจริงๆ
สิ่งที่ผิดแปลกนั้นก็คือ ดวงตาของไร้บุปผา นั้นมีแววตายิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อน ดูเหมือนความตายของหมื่นบุปผา คงไปกระตุ้นอะไรเข้าสินะ
แต่แน่นอนว่า ค่าตอบแทนของการจะหนีจากองค์กรนั้นคือทัณฑ์ทรมานแสนสาหัส
เจ้าตัวก็ไม่ปริปากพูดอะไรทั้งสิ้นว่าทำไมจะหนีไป
ผ่านไปเป็นสัปดาห์ ไร้บุปผา ก็ดูไม่โอนอ่อนผ่อนตาม เจ้าของสวนจึงยื่นเงื่อนไขให้
เนื้อหาของงานก็คือการลอบสังหาร คุณชายไป๋ทู่ เพราะดูเหมือนแผนงานใหม่ของโรงแรมในเครือที่คุณชายดูแลอยู่จะไปขัดขาของคนใหญ่โตบางคน
และนักฆ่าที่จะถูกส่งไปก็คือ ไร้บุปผา นั้นเอง
ไร้บุปผารับคำ
หนึ่งหยดแดงลอบส่งข่าวเป็นครั้งสุดท้าย ชายหนุ่มผมดำหันมามองมองจดหมายที่อยู่บนโต๊ะ ก่อนจะหยิบขึ้นมาอ่านเป็นครั้งสุดท้าย แล้วเผาจดหมายนั้นเสียสิ้น เพราะเค้าคิดว่าได้เวลาแล้ว หลังจากนี้ สวนแห่งนี้จะกลายเป็นสวนเลือด!
เปลวเพลิงเริ่มลามเลียมาใกล้ ภายในห้องที่ตกแต่งงดงามเริ่มมีควันไฟเข้ามา
“ เป็นเธอเองเหรอ….หนึ่งหยดแดง ” เสียงแผ่วเบาของหญิงชราที่ถูกยิงเข้าที่หน้าอกเอ่ยขึ้น ไม่ต้องหันไปมองก็รู้เลยว่า พี่น้องอีก 2 คนได้สิ้นลมแล้ว ด้วยฝืมือของชายหนุ่มตรงหน้า
“ เธอจะต้องเสียใจที่ทำแบบนี้ ”
“ ผมไม่เคยเสียใจ ”
ปัง!
เสียงปีนดังขึ้นพร้อมความเจ็บปวดที่มาจากหัวไหล่ หนึ่งหยดแดงกัดฟัน หันปีนไปทางหญิงแก่แล้วสาดกระสุนจนหมด ร่างทั้งสามแน่นิ่งไป ชายหนุ่มเดินเข้าไปเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจ
เสียงระเบิดดังทั่วทิศ ไฟเริ่มลามมาที่ห้องนี้แล้ว เค้าต้องรีบ หนึ่งหยดแดงไปที่หลังร่างหญิงแก่ทั้งสาม มือซ้ายรีบคลำที่กำแพง ความร้อนจากไฟแทบจะเผามือ แต่ชายหนุ่มก็อดทนจนสามารถเจอช่องลับสำหรับเปิดประตู เมื่อเข้าไปก็ปรากฏคอมพิวเตอร์มากมาย แฟ้มเอกสารและตู้หนังสือ หนึ่งหยดแดงหยิบขวดพลาสติกใบเล็กออกมาแล้วราดไปทั่วห้อง
ต้องทำลาย ทุกอย่างจะต้องหายไป โดยเฉพาะข้อมูลของเด็กคนนั้น
สวนแห่งนี้จะต้องหายไป
----------------- To be continue ------------------
จบตอน 2 ตอนหน้าก็จะเป็นเรื่องราวที่หนึ่งหยดแดงทิ้งฉายาไปใช้ชื่อหงเย่ และได้พบเคย์โกะกับอายะ
เรื่องเซียวอั๊งก็คือตอนแรกไป๋ทู่ตั้งใจให้มาเป็นตัวประกันจริงๆ เพื่อควบคุมหนึ่งหยดแดง (เพราะยังไม่เชื่อใจกันเท่าไหร) แต่หลังจากมีเซียวอั๊งเป็นยาใจ(?) ก็เลยเปิดความเชื่อใจกันมากขึ้น จะว่าเป็นนายบ่าวแต่แนวพี่น้องอ่ะ
คุณพ่อของไป๋ทู่เป็นแนวนักธุรกิจเจ้าชู้ ไป๋ทู่ไม่ค่อยใยดีพ่อตัวเองเท่าไหร หนึ่งหยดแดงก็เคยถามว่า จะไม่มีปัญหาเหรอที่(สร้าง)ประวัติของเซียมอั๊งให้เป็นลูก ไป๋ทู่ก็เลยตอบว่า คนๆนั้นไม่มาสนใจอะไรหรอกครับ
แนวๆนี้ละมั้ง ฮา
ตอนนี้เขียนยากอย่างเดียวคือต้องระวังเรื่องระยะเวลา
เพราะตอนแรกคิดไว้แค่เนื้อเรื่องคร่าวๆไม่ได้คิดเลยว่าใครอายุเท่าไหรแล้วตอนนี้ ฮา