วันศุกร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

When The Flower Bloom


ดีใจ.......ที่วาดได้อย่างใจคิดเลย T T
อายะทั้ง 3 ฮา
สามช่วงอายุ ตอนเด็ก(ช่วงก่อนเจอเคย์โกะ...)  น่าจะ..ซัก 12 มั้ง
ช่วงมัธยมเจอฮารุ  น่าจะ 15-16
กับช่วงโตแล้ว วาดให้ผมยาวเพื่อให้มันดูแตกต่าง ฮา
บางทีก็คิดถึงอายะตอนผมยาวเหมือนกันนะ

บางทีภาพต่อไปอาจจะเป็นอายะกับฮวยก็ได้ ฮา

วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

After Sunset

ท้องฟ้าครึ้มในยามเย็น  ทำให้อากาศที่เย็นอยู่แล้ว  ยิ่งเย็นขึ้นไปอีก
หญิงสาวคนนึงเดินถือร่มออกมาจากบ้านญี่ปุ่นโบราณหลังหนึ่ง มองท้องฟ้าที่มืดดั่งกลางคืนทั้งๆทียังเป็นแค่ยามเย็น
อาจจะเป็นเพราะเมฆฝนก็ได้?
เคย์โกะถือร่มในมือขวาแล้วเดินไปตามถนนเส้นเล็กที่ทอดยาวไปสู่ถนนใหญ่  พลางครุ่นคิดถึงสาเหตุที่ตัวเองต้องมาพบเคียวโกขุ

หญิงสาวขมวดคิ้ว  อีกฝ่ายก็รู้ตัวดีเห็นได้จากสีหน้าของชายหนุ่มที่แทบอยากปิดประตูเมื่อเห็นว่าเธอมาอยู่ที่หน้าบ้าน  แต่หากไม่เป็นเพราะธุระสำคัญของแก๊งค์แล้ว ใช้ว่าเธออยากจะมานักหรอก.....

ขาเรียวก้าวเดินต่อไป  ทางสู่ถนนใหญ่เริ่มมองเห็น........เสียงเครื่องยนต์มอเตอร์ไซต์ที่ดังขึ้นจากด้านหลัง  และเสียงนั้นก็ดังใกล้ขึ้นมาเรื่อยๆ จนหญิงสาวอดไม่ให้หันไปมองไม่ได้
มอเตอร์ไซต์สีดำปรากฏขึ้นในสายตา  พร้อมคนขับที่สวมใส่หมวกกันน็อกสีดำสนิท เคย์โกะหยุดชะงักในทันที

คนที่นั่งคร่อมมอเตอร์ไซต์ถอดหมวกกันน็อกออก  ผมสีดำและรอยยิ้มที่คุ้นตาถูกส่งมาให้ในทันที
" สวัสดียามเย็น เคยโกะ "  ดวงตาที่ส่อแววประหลาดใจของเคย์โกะปรากฏขึ้นเพียงชั่วครูก่อนจางหายไป
" หงเย่....... "
" คุยธุระเสร็จแล้วใช่ไหมล่ะ ชั้นเลยมารับ "  ชายหนุ่มยิ้ม พร้อมยื่นหมวกกันน็อกสีขาวที่มีริ้วลายสีดำมาให้
" ....มาญี่ปุ่นตั้งแต่เมื่อไหร " หญิงสาวถาม
" 3  วันก่อน.... "
" แล้วนี่มอเตอร์ไซต์อายะใช่ไหม "  เคย์โกะมองหมวกกันน็อกในมือแล้วเลื่อนสายตาไปที่มอเตอร์ไซต์  ตอนแรกมันดูไม่คุ้นตา แต่เมื่อลองพิจารณา  ก็จะเห็นร่องรอยตกแต่งมอเตอร์ไซต์
หญิงสาวถอนหายใจ
.......ไปก่อเรื่องอะไรไว้อีกละ..........

" ถูกต้อง  เค้าฝากสวัสดีเธอด้วยน่ะ " หญิงสาวรับหมวกกันน็อกมาสวม ก่อนจะเดินไปซ้อนมอเตอร์ไซต์
" จะไปไหน...... " หญิงสาวที่สวมหมวกกันน็อกเอ่ยถาม
" บ้าน..... ฉันอยากกินข้าว...ฝืมือเธอ " หงเย่หันไปสบตาหญิงสาวที่ยังไม่ได้ดึงกระจกบังลมลง ถึงจะมองไม่เห็นทั้งใบหน้า แต่ชายหนุ่มรู้สึกได้ว่าหญิงสาวกำลังยิ้ม
ชายหนุ่มผมดำหันกลับมาสตาร์ทรถมอเตอร์ไซต์ รู้สึกได้ว่ามือเรียวของหญิงสาวเอื้อมมาโอบเอวเค้าไว้และไออุ่นจากร่างกายที่โน้นมาพิง ชายหนุ่มยิ้ม  ขาเกี่ยวขาตั้งมอเตอร์ไซต์ขึ้น  แล้วขับออกไปท่ามกลางเงาแมกไม้ยามเย็น


-----------------------------


โหย จบง่ายที่คิดแฮะ
อันนี้เขียนไว้นานมากกกกกกกก  แต่หาที่จบไม่ได้เลยค้างไว้นานมากเช่นกัน = ="
ลองแปะลงไปดูแล้วเติมนิดหน่อย โอ้ย โอเค จบเลย ฮา

ตอนแรกตั้งใจว่าจะเขียน 3 ตอน
คือ ตอนของเคย์โกะ หงเย่ และเคียวโกขุ แต่นึกมุขไม่ออกเลย  ได้มาแค่ของเคย์โกะคนเดียวซะงั้น ฮา

The Gentle Sound

“ อายะ...มานี่สิ ”  เสียงเรียกนั้นช่างอ่อนโยน เต็มเปี่ยมไปด้วยห่วงใย เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นอย่างสงสัยว่านั้นคือน้ำเสียงของใคร ก็พบชายแก่คนนึง กำลังลูบแมวตัวนึงด้วยความเอ็นดู
ดูเหมือนลุงจรจัดคนนั้นหันมามองเด็กน้อยที่นั่งโล่ชิงช้าอยู่คนเดียว


“ ไม่กลับบ้านเหรอ ” เสียงชายแก่ทัก  เด็กน้อยก้มลง
“ ………………………..”  เด็กน้อยตอบเพียงแค่นั้น  ก่อนดวงตากลมนั้นจะจ้องไปยังกลุ่มขนปุกปุยที่ชายแก่อุ้มอยู่ กลุ่มขนปุกปุยนั้นขยับเล็กน้อย แล้วดวงตากลมโตเหมือนลูกแก้ว ก็จ้องกลับมา
“ ชอบแมวเหรอ…. ”
“ แมว? ” ชายแก่ชะงักไปนิด ก่อนจะค่อยๆคลายอ้อมแขมให้เห็นสิ่งที่อุ้มอยู่ชัดๆ
“ ลองจับดูก็ได้นะ ”  ชายแก่บอก พลางขยับตัวเข้าใกล้ มือของเด็กน้อยยื่นออกไปอย่างกล้าๆกลัว แต่เมือสัมผัสโดนขนนุ่มนิ่ม ดวงตาเด็กน้อยก็เป็นประกายขึ้นมา
“ นุ่มจัง... ”
“ อืม…..นุ่มใช่มั้ย อุ่นด้วยนะ นี่แหละเรียกว่า “ แมว ” ”  ชายแก่ขยับอ้อมแขนนิด เจ้าแมวก็ขยับตัวอย่างเกียจคร้าน


หลังจากนั้นความสัมพันธ์ของเด็กน้อยกับชายแก่ก็สนิทกันผ่าน “ อายะ ” มากขึ้น  เด็กน้อยชอบมาเล่นกับเจ้าเหมียวตัวนี้มาก
“ หนู….ชื่ออะไรเหรอ ”
“ ชื่อ…..? ”
“ ใช่ ชื่อน่ะ ” เด็กน้อยยังมองมาฉายแววฉงน จนชายแก่ต้องถามใหม่
“ คุณแม่หนู เรียกหนูว่าอะไรเหรอ ” ความฉงนหายไปจากแววตา  แต่กลับทำให้ดวงตาของชายแก่เบิกกว้างด้วยความตกใจแทน
“ นี่…. ”
“ ? ”
“ คนที่บ้านเรียกผมว่า ” นี่ ” ” เด็กหนุ่มมองชายแก่ที่นิ่งไป แล้วหวนคิดถึงผู้เป็นแม่ แม่ที่มักจะดุด่าตนเองเสมอ ซึ่งเค้าก็ไม่รู้ว่าทำอะไรผิด  เมื่อโดนแม่ตี เค้าก็ร้องไห้ แล้วแม่ก็จะเค้ามากอด
เค้าไม่เคยถามถึงพ่อ เพราะเวลาถามถึงพ่อเมื่อไหร แม่จะร้องไห้และตีเค้ามากขึ้น
จนวันหนึ่ง……...แม่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต  โลกเหมือนกลับตาลปัตร
….ตาย….
เป็นคำที่เด็กน้อยยังไม่ค่อยเข้าใจ เค้ารู้แค่ว่าแม่จะไม่กลับมาอีกแล้ว…..
ไม่ตี  ไม่ดุด่า …...และไม่กอดเค้าอีกแล้ว….
ถึงแม่จะชอบตีเค้า แต่เค้าก็ไม่เคยโกรธเกลียดแม่เลย…..
เนื่องจากไม่มีญาติ เลยต้องไปอยู่ที่บ้านเด็กกำพร้า ต่อมาเค้าถูกรับไปอุปการะ แต่…...ว่า บ้านที่รับไปอุปการะก็ต้องการแค่เด็กใช้งานเท่านั้น  
ที่บ้านนั้นเค้าโดนใช้ให้ทำงานหนัก  และคนในบ้านก็เรียกเค้าว่า “ นี่ ”  “ เฮ้ย ” “ แก ”
…….เค้าเคยมีชื่ออยู่ แต่เมื่อแม่ที่คอยเรียกชื่อนั้นไม่อยู่แล้ว  ทำให้ชื่อนั้นถูกเลือนหายไปกับกาลเวลา เด็กน้อยก้มหน้าลง
“ นี่….. ”  เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นอย่างอัตโนมัติ เมืื่อสบตากับชายแก่ ชายแก่ก็หัวเราะออกมา เด็กน้อยยิ่งงง
“ ฮาฮา ขอโทษ ชั้นไม่ตั้งใจ เพียงแต่เห็นเธอก้มหน้า ก็เลยอยากให้เธอเงยหน้าขึ้นเท่านั้น ”
“อย่าก้มหน้าเลย เพราะถ้าเธอมัวแต่ก้มหน้าก็จะเห็นแต่พื้นสีทึมๆ ลองเงยหน้าสิ ยังมีสีสันให้เธอดูอีกเยอะแยะนะ อย่างเช่นแบบนี้ ”  แล้วชายแก่ก็อุ้มอายะมาจ้องหน้ากับเด็กน้อย ดวงตากลมโตสีฟ้าใสเหมือนลูกแก้วจ้องแป๋วมา  เด็กน้อยสาบานเลยว่าไม่เคยเห็นลูกแก้วสีฟ้าใสขนาดนี้มาก่อน
ชายแก่ยิ้ม

หลังจากนั้นเด็กน้อยชอบแอบมาเจอคุณลุง เพราะคุณลุงชอบเล่าเรื่องสนุกๆให้เค้าฟังบ่อยๆ  คุณลุงใจดี สอนเรื่องต่างๆให้เค้ามากมาย รวมทั้งสอนเรื่องการอ่าน การเขียนด้วย คุณลุงเก่งมากๆเลย  ถึงบางทีคุณลุงจะดุแต่ก็ใจดี โดยเฉพาะยอมให้เค้าอุ้มอายะ และเล่นกับมันได้ด้วย


แต่เค้าว่า…..ความสุขนั้นมักจะสั้น


วันนี้เด็กน้อยโดนดุและลงโทษ  เพราะเค้าทำของพัง แต่จริงๆก็ไม่ได้ทำหรอกเป็นลูกของบ้านนั้นที่ทำของแตกแล้วโยนความผิดมาให้เค้า  ทำให้เค้าโดนลงโทษ ไม่ได้ออกจากบ้านมา 2 วันแล้ว
เค้าโดนให้นอนในห้องเก็บของที่มีแต่ฝุ่น  เก่าและมืด
เวลาแรกเค้ากลัว แต่ว่าพอคิดถึงคุณลุงกับดวงตาสีฟ้าใสของอายะก็ทำให้เค้าเข้มแข็งขึ้น….
จนวันที่ 3 เค้าได้รับอนุญาตให้ออกมาจากห้องเก็บของ แต่กว่าจะหาจังหวะออกจากบ้านได้ ก็วันที่ 5


เมื่อเด็กน้อยมาถึงสวนสาธารณะที่มักจะเจอคุณลุงกับอายะเสมอ แต่วันนี้…..คุณลุงกลับนั่งอยู่บนเก้าอี้ยาว
“ คุณลุง….อายะละครับ ” เด็กน้อยถามชายแก่ที่นั่งอยู่บนม้านั่งยาว  วันนี้คุณลุงแปลกมากๆปกติคุณลุงจะยิ้มเสอมเมื่อเห็นเค้า แต่วันนี้กลับนั่งเงียบอยู่นานมาก แล้วก็…..ไม่เห็น อายะ เลย
“ คุณลุง อายะละครับ คุณลุงให้ไปวิ่งเล่นแถวนี้เหรอ ”
“ อายะไม่อยู่แล้วละ ”
“ ไม่อยู่? ”  เด็กน้อยถามอย่างไม่เข้าใจ  คุณลุงมองอย่างเอ็นดูแต่ก็ยังมีแววเสียใจ
“ อายะไปอยู่บนสวรรค์แล้วละ ”
“ คุณลุงอย่าเสียใจไปเลย ”
“ อายะจะต้องมีความสุขแน่ๆ  เพราะคุณลุงรักอายะมากๆ ”
“ อายะต้องจากไปพร้อมความสุขแน่นอน ”  คุณลุงหลับตาลง ก่อนจะเงยหน้าขึ้มามองเด็กน้อยด้วยตารื้นๆ
“ ชื่อ อายะ เป็นชื่อลูกสาวของชั้นเอง ”  ชายแก่หันมาทางเด็กน้่อย พลางลูบผมสีอ่อนนั้น
“ ชั้นไม่เคยเหลียวแลแกเลย จนกระทั้งลูกสาวจากไป….. ”
“ ชั้น…….มัวแต่ยุ่งเรื่องงาน………….. ”


“ ชั้นคงต้องไปแล้ว…. ”
“ คุณลุงจะไปไหนครับ ” ชายแก่เงยหน้ามองท้องฟ้า
“ ไม่รู้สิ…...ไปเรื่อยๆ ”
“ ให้ผมไปกับคุณลุงด้วยเถอะครับ ” เด็กน้อยโผเข้าหาชายแก่ แล้วกอดไว้แน่น ไม่ยอมปล่อย
“ ผม…...ผมไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแล้ว ”  
“ ไปกับชั้น มันลำบากนะ…...ไม่มีบ้าน ไม่มีอะไรเลย……. ”
“ ไม่ครับ คุณลุงไม่ได้ไม่มีอะไร  สิ่งที่่คุณลุงมี  ผมอยากได้…..อยากได้……….. ” เด็กน้อยตะโกนออกมา ความอัดอั้นในใจบางอย่างคล้ายจะระเบิดออกมา
…...แม่….คุณแม่ครับ……..
“ ….อยากให้รักผม ”  เข้าใจแล้วที่ผ่านมา เค้าแค่อยากได้ความรัก อยากให้มีคนเรียกเค้าด้วยน้ำเสียงอบอุ่น  อยากให้มีคนลูบหัวปลอบใจ  หยดน้ำใสไหลออกมาจากดวงตากลม มือน้อยๆนั้น กำเสื้อของคุณลุงแน่น


…….เสียงอันอบอุ่นอ่อนโยนเวลาเรียกอายะนั้น เค้าอิจฉาเหลือเกิน…….
……...ถ้ามีใครคอยเรียกเค้าแบบนั้นบ้าง…..ก็คงดี………..


นั้นคือความรู้สึกตอนที่เห็นคุณลุงเรียกอายะอย่างใจดี
“ …..ชั้นคงให้ความรักมากมายขนาดนั้นไม่ได้ ” ชายแก่ค่อยๆดันเด็กน้อยออกอย่างแผ่วเบา
“ เพราะชั้นก็คงอยู่ได้ไม่นาน ”
“ ถ้างั้น…………..เธอเอาชื่อ อายะ ไปเถอะ ถ้านั้นเป็นชื่ออที่เธอบอกว่าเต็มไปด้วยการได้รับความรัก ”
“ แต่ว่า…..มันเป็นชื่อของ……. ”
“ เธอไม่ชอบเหรอ ”  ชายแก่ถาม  เด็กน้อยรีบส่ายหน้า
“ ไม่เลยครับ ”
“ งั้นก็ไปกันเถอะ... ”  ชายแก่จูงมือเด็กน้อย  เด็กน้อยเช็ดน้ำตา
“ ครับ ”  


----------------------

จบไปเลยแบบงงๆ ฮา
อยู่ๆก็อยากเขียนขึ้นมา 5555
พอเขียนอดีตของอายะแล้วก็ชักอยากเขียนเรื่องเคย์โกะด้วยอ่า......หาที่จบไม่ได้ U U!
เหมือนชีวิตจะรันทด...มั้ง?



วันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

Into your heart

เธอ อย่าสัญญา
อย่าสาบาน จะรักกันตลอดไป
ฉันไม่สนใจ คำที่ใคร
ใช้เพื่อซื้อความผูกพัน

เคยพบและได้เจอเรื่อยมา
คำเดิมๆ ธรรมดา ที่ไม่มีใครรักษามันเอาไว้
ความเป็นจริงมีสิ่งใด จะคงเดิมตลอดไป เธอก็รู้ดีอยู่แล้ว......



...........มือเรียววางแก้วกาแฟลง หยิบแว่นดำที่วางอยู่ข้างขึ้นมาใส่ ก่อนจะเดินไปจ่ายเงินที่เคาเตอร์  แดดในช่วงเช้า ถึงไม่จ้ามากสำหรับคนทั่วไป แต่สำหรับเค้าแล้ว ยังต้องเอามือป้องตาไว้  ชายหนุ่มในเสื้อคลุมสีครีม ออกเดินไปตามทางเรื่อยๆ ในหัวยังมีเสียงเพลงที่เปิดในร้านกาแฟตามติดมาด้วย 

........ความเป็นจริงมีสิ่งใด จะคงเดิมตลอดไป เธอก็รู้ดีอยู่แล้ว......

เสียงเพลงที่เหมือนตอกย้ำความคิด  และคำสัญญานั้น  ทำให้ใจเค้าสงบไม่ได้เลย 
ชายหนุ่มเดินไปตามทางเดินที่ครึ้มไปด้วยต้นไม้  
" อาร์ค? "  เสียงเรียกคุ้นเคยทำให้ดวงตาใต้แว่นกันแดดเบิกขึ้น ผมสีส้มมีปอยสีแดงปรากฎขึ้นตรงหน้า ความคิดถึง....ความเศร้า....ความเหงา....
อาร์ควิ่งเข้าไปกอดร่างที่ยืนอยู่  ชายหนุ่มผมสีส้มตกใจเล็กน้อยก่อนจะกอดตอบ
" เป็นอะไรหรือ อาร์ค ทำไมไม่รอในร้านละ "
" เบรฟ.....นิรันดร์ไม่มีจริงใช่มั้ย ฉันกับนายจะไม่มีทางอยู่ด้วยกันตลอดไปงั้นหรือ? " 

รู้.....รู้ดีว่าไม่มีทางที่จะคงอยู่ตลอดไป แต่ว่า......ไม่อยากจะปล่อยมือ ไม่อยากให้จากไป..

" อาร์ค.....  "  เบรฟเงยหน้า....มองไปยังวิวทิวทัศน์ต่างๆ มองไปยังต้นไม้  ก้อนเมฆ ท้องฟ้า.........ดวงอาทิตย์....
" ไม่มีหรอก.......นิรันดร์ ไม่สิ่งใดอยู่ตลอดไป แม้แต่พระอาทิตย์ก็ยังมีวันดับแสง  แม้แต่ฉัน....กับนาย......สักวัน.... " เบรฟรู้สึกได้เลยว่าอาร์คกอดเค้าแน่นขึ้น เบรฟอมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะดันตัวออกมา แม้อาร์คจะใส่แว่นตาดำอยู่เค้าก็รู้ได้ 

......ไอริสอายนั้นต้องมีน้ำตาคลออยู่แน่ๆ........

" ไม่เป็นไรหรอกนะ อาร์ค....ฉันจะไม่มีวันทิ้งนาย......ให้อยู่คนเดียวเด็ดขาด "  เบรฟจ้องมองไปที่ดวงตาใต้แว่นดำนั้น  จับมือคนตรงหน้าขึ้นมาจุมพิต
" ไม่ว่าเมื่อไหร.....ฉันอยู่ในหัวใจนายเสมอ " 

.........................................................................................

ขึ้นมางงๆ จบแบบงงๆ 555 
เกิดขึ้นจากการฟังเพลง(อีกแล้ว) ฮา 
แล้วก็ดันนึกถึงคู่นี้ เพราะสถานภาพของทั้งคู่มันไม่มั่นคงอ่านะ 
อย่างอาร์คก็อายุไม่ยืนเท่าไหร เบรฟก็เป็นพวกเต็มที่กับชีวิต..............แต่ก็อยากให้ทั้งสองคนมีความสุขแหละ