วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Perfume

*คำเตือน - เนื้อหาใดๆ ต่อไปนี้เกิดจาก ความคิดเห็นส่วนตัว ของเราทั้งสิ้น บางเรื่องสามารถหาหลักฐานอ้างอิง บางเรื่องก็ไม่ได้ ดังนั้นอ่านอย่างพิจารณานะคะ คิดต่างอย่างสุภาพได้ค่ะ

พอตามไปเรื่อยก็อยากรู้ความหมายเพลงค่ะ
ยอมรับว่าตอนแรกที่อ่านเนื้อเพลงแปลอังกฤษถึงกับมึนตึ้บ แบบมันหมายถึงอะไรเนี่ย ฮา
แล้วพอเข้าไปอ่านที่แฟนๆวิเคราะห์ หรือหาข้อมูลของเพลง ก็ทำให้พอจะเข้าใจความหมายได้นิดนึง ^^!

Perfume - Chocolate Disco



- เป็นเพลงแรกที่ทำให้เราติด perfume ค่ะ ฮา
ตอนแรกก็แบบ เพลงอะไรเนี่ย มีแต่ Chocolate disco
แต่ตอนนั้นก็ยังไม่รู้ว่าไอ้เท่อนนี้นี่แหละ ที่ทำให้เราหันมาติด
เพราะหลังจากนั้นคำว่า Disco Disco Disco ก็ดังอยู่ในหัวเรา จนต้องหลับมาฟังอีกรอบ ฮา
- เป็นเพลงที่ทำให้รู้สึกว่า อ๋อ นากาตะ มองวาเลนไทน์เป็นแบบนี้เองเหรอ ฮา


Perfume - polyrhythm



- เพลงที่ตอนที่ยังไม่รู้จัก perfume (ไปอ่านในเน็ต) เค้าแนะนำกันว่า ให้ลองฟังเลพงนี้ก่อน
แต่ก็ขอสารภาพว่า ฟังครั้งแรกไม่ประทับใจค่ะ เพลงนี้ก็ความหมายดีค่ะ
แฟนๆอาจจะรู้อยู่แล้วว่า เพลงนี้ถูกใช้ในการรณรงค์เรื่องการรีไซเคิล เพลงก็เลยมีเนื้อหาถึงการวนเวียน
ใน mv ก็มีสัญลักษณ์ ที่เป็นเกลียว เป็นวงกลม อยู่เหมือนกัน 
- เพลงนี้ตอนแรกเราฟังแล้วเฉยๆ ไม่ประทับใจ แต่สาวๆสวยทุกคน เห็นแล้วก็คิดว่า เออ น่ารักดีนะ แต่ก็จบแค่นั้นน่ะค่ะ แฮะๆ 

Perfume - Electro world



- เพลงนี้เป็นเพลงที่ชอบมาก มีอยู่ช่วงฟังแล้วติดเลย อ่านเนื้อเพลงแล้วก็งงเหมือนเดิม ฮา
พอหาไปหามาก็เจอว่าเพลงนี้ถูกใช้เป็นเพลง RockmanOnline ทีนี้ละ เนื้อเพลงที่อ่านมาถึงบางอ้อ ในทันที โดยเฉพาะท่อน

who flipped the switch on for this world?
ah, soon it will be no more
Electro world

( Perfume - Electro world http://www.perfume-city.com/lyrics/15/Electro%20World/  )

- สำหรับเรา เราว่า Electro world เป็นส่วนขยายของ Computer city ฮา



Perfume - Communication




- โอ้ย เพลงนี้ชอบมาก ชออเนื้อเพลง ชอบท่าเต้น ชอบทุกอย่างเพราะทั้งหมดมันสัมพันธ์กันทั้งเพลง
คือท่าเต้นเข้ากับเพลงและเนื้อเพลงมาก ที่ชอบที่สุดคือ

“If the person I love fell from the sky suddenly…”
i try to think of how i'd catch him but it's too difficult

โอ้ย อ่านแล้วขำอ่ะ แล้วยิ่งต้องดูท่าเต้น มี่เหมือนยื่นมือออกไปรับ คือมันเข้ากันพอดี
กับอีกท่อนคือ

Give me Give me コミュニケーション
Give me Give me komyunikeeshon

ハートをつないで
haato wo tsunaide

แล้วท่าเต้นก็ทำมือเป็นเหมือนนก บินออกไป ชอบมาก
ในเนื้อเพลงมีคำว่า ハート ( Hato ) คำนี้ในภาษาญี่ปุ่นมันพ้องเสียงค่ะ
พ้องเสียงระหว่างคำว่า Hato = นกพิราบ กับ Hato (Heart) = หัวใจ ค่ะ
ทีนี้พอเห็นท่าเต้นจะร้องอ๋อเลย เห็นแล้วคิดว่า เข้าใจคิดนะคะ อ.มิกิโกะ มันน่่ารักมากๆอ่ะค่ะ

แล้วอีกอย่างเพลงนี้ใช้โฆษณาขนม KANRO Pure Gummy ค่ะ


ถึงได้เป็นความรักเปรี้ยวอมหวานสินะ ฮา 
- คิดว่าถ้าเพลงไหนใช้ประกอบโฆษณานี่เนื้อหาเพลงจะเข้าถึงง่ายอยู่นะ ฮา 


Perfume - My color




- เพลงนี้ก็เป็นอีกเพลงที่ตอนแรกฟังแล้วเฉยๆ คือรู้สึกว่ามันเพราะ แต่ก็ยังไม่ได้ประทับใจอะไร 
จนกระทั้งไปดู......ไม่แน่ใจ น่าจะเป็นเบื้องหลังของ perfume world tour 1st มั้งคะ 
ที่สามสาวจะเลือกเพลงอังกอร์ สามสาวก็บอกว่าต้องเป็น My color 
ตอนนั้นก็แบบ อ้าว ทำไมเลือกเพลงนี้ เพลงนี้มันมีความหมายอะไรงั้นเหรอ?
พอไปหาเนื้อเพลงมาอ่าน โอ้โห ชอบมากๆเลยค่ะ เพลงอะไรนี่ ประทับใจมาก
เราตีความว่า MY color คือ โทรศัพท์มือถือค่ะ ในเพลงจะบอกว่า มือของคุณที่เหมือนหับหน้าต่าง เชื่อมต่อกับทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก เมื่อชั้นใส่ที่อยู่ของคุณลงไปก็จะสามารถส่งข้อความ และรู้สึกถึงคุณได้ .....

- อ่านแล้วเข้าใจเลยว่าทำไมตอนนั้นสามสาวถึงเลือกเพลงนี้เป็นเพลงอังกอร์ส่งท้าย world tour ค่ะ 
มันให้ความรู้สึกว่า พวกเรายังติดต่อกันได้นะ ยังสามารถเชื่อมถึงกัน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในโลกค่ะ 

Perfume - Voice 



- นี่เป็นเพลงที่............ก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร ฮา
แต่เพลงนี้จากคลิปนี้ คนแปลเพลง(เขียนไว้ในคลิป)ว่า มีอยู่ท่อนที่นากาตะ(น่าจะ)ได้แรงบัลดาลใจจาก สุนทรพจน์ของสตีฟ จอบส์ ค่ะ
ก็คือท่อน 

点と点をつなげてこ
everythingを合わせてこ

แปล eng 
Connect the points
And join everything


ซึ่งน่าจะมาจาก 
" การเชื่อมโยงต่อจุดแต่ละจุด "
"....คุณไม่มีวันเชื่อมโยงเหตุการณ์ได้ด้วยการมองไปข้างหน้า คุณโยงเส้นต่อจุดนี้ได้ก็เพราะว่ามองมันกลับมา ดังนั้น สิ่งที่คุณต้องทำก็คือการเชื่อมั่นว่า จุดต่างๆนั้น จะเชื่อมต่อกันทางใดทางหนึ่งในอนาคต คุณต้องศรัทธาในบางสิ่ง อาจจะเป็น พลังแห่งความกล้าหาญ, โชคชะตา, ชีวิต, กรรม หรืออะไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้เอง ที่ทำให้ผมไม่เคยสิ้นหวัง และกล้าที่จะเผชิญความเปลี่ยนแปลงต่างๆในชีวิตต่อมา..."

Jobs on “connecting the dots” in life

“…you canit connect the dots looking forward; you can only connect them looking backwards. So you have to trust that the dots will somehow connect in your future. You have to trust in something – your gut, destiny, life, karma, whatever. This approach has never let me down, and it has made all the difference in my life…”

( สุนทรพจน์ดีๆที่สตีฟ จ๊อบ เคยได้ฝากเอาไว้ http://blog.eduzones.com/rangsit/83374 )

- แต่อันนี้ก็เป็นการคาดเดานะคะ เพราะไม่มีอะไรยืนยัน นอกจากเนื้อเพลงที่มีความคล้ายเท่านั้นเอง 
- อันนี้เป็นความคิดส่วนตัวขำๆของเราเอง ว่าเพลง my color เหมือนแรงบันดาลใจจาก Widows ส่วน Voice คือ แรงบันดาลใจจาก Apple (อันนี้สุดๆแห่งความมโนและเดาของเราเองค่ะ 5555555) 

Perfume - 575 




- เกือบลืมเพลงนี้ เพลงนี้ถูกใช้เป็นเพลง โฆษณาของโทรศัพท์มือถือ Light pool 



- ดูแล้วกรีดร้อง อยากได้มือถือเลยค่ะ งื้อ มันสวยมากกกกกกกกกกกกก
โอ้ย อิจฉาญี่ปุ่นที่มีมือถือฝาพับสวยมากๆ
- ที่มาของชื่อเพลง 575 มาจากลักษณะการเขียนกลอนของญี่ปุ่น คือ กลอนไฮกุ ค่ะ 
กลอนนี้จะมี 3 วรรค วรรคแรก 5 คำ วรรคสอง 7 คำ และวรรคสาม 5 คำ 
และนี่เป็นที่มาของชื่อเพลงและเนื้อเพลงค่ะ โดยเพลงนี้ในเนื้อเพลง นากาตะก็เขียนเนื้อเพลงแบบกลอนไฮกุ แบบ 575 น่ะค่ะ (ต้องไปหาเนื้อเพลงดูแล้วจะอ๋อค่ะ)
- อันนี้ก็ความคิดเห็นส่วนตัวเรานะคะ เนื่องจากเพลงนี้อยู่ในอัลบั้ม JPN ที่มีเพลง natural ni koishite
กับ Fushizen na Girl ที่มีแฟนก็จับได้ว่า 2 เพลงมันสื่อถึงกัน (เพราะตอนขายเป็นซิงเกิ้ล ก็เป็น 2 เพลงนี่คู่กัน แถมเพลงนึงเป็น natural อีกเพลงเป็น unnatural อีก)
คือมีท่อนนึงใน natural ni koishite ที่ร้องว่า ที่รัก คุณได้อีเมล์จากใครกัน? เพราะคุณเนื้อหอมจนฉันรู้สึกกังวลเลย (ฮา) 
แล้วเพลง Fushizen na Girl ( Unnatural girl ) เราแปล(เอง) ว่าผู้หญิงที่ไม่เป็นตัวของตัวเอง เพราะในเนื้อเพลงจะพูดถึงว่า เธอได้ตกหลุมรักผู้ชายคนนึงแล้ว และไม่สามารถหยุดคิดถึงหรือหยุดรักเธอได้....
แถมมีท่อนนึงที่บอกว่า ได้ส่งอีเมล์ไปหาเธอ(ผู้ชาย) 
- พอมาเพลง 575 ที่มีเนื้อเพลงพูดถึงการส่งอีเมล์ แถมท่อนแรกก็มาว่า ไม่อยากจะแพ้ในรักครั้งนี้ อีก 
อ่านเนื้อเพลงแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่านี่คือผู้หญิงในเพลง Fushizen na Girl ใช่มั้ย
- เป็นอีกครั้งที่คิดว่านากาตะนี่เข้าใจผู้หญิงดีชะมัด = ="

Perfume - Spice 



- อีกเพลงที่แม่แต่อ่านเนื้อหาเพลงดู mv แล้วก็งงๆ จนกระทั้งไปหาเจอว่ามันเป็นเพลงประกอบละคร  Sengyo Shufu Tantei ~Watashi wa Shadow พอไปอ่านเนื้อเรื่องย่อแล้วก็ถึงบางอ้อ (อีกแล้ว ฮา) ทำให้เข้าใจว่าทำไมเพลงชื่อ Spice 
- คำแปลเนื้อเพลงกับเนื้อเรื่องของละคระ http://writer.dek-d.com/perfumekashi/story/viewlongc.php?id=1117296 
- อ่านในวิกิ เห็นบอกว่านากาตะเขียนเพลงนี้จากอิมเมจของละครเรื่องนี้เลยทีเดียว 

Perfume - Glitter



- เพลงนี้ก็โฆษณาอีกแล้วค่ะ อันนี้มี hint เล็กๆคือท่าโพสตอนจบของสาวๆ ที่แฟนๆเดากันว่าน่าจะมาจากคันจิคำว่าน้ำ - 水







Perfume Secret Secret


- หลังจากเขียนกระทู้นี้ ก็ทำให้กลับไปวนเวียนฟังเพลง perfume อีกแล้ว หลังจากหนีไปฟังอย่างอื่นมาซักพัก ฮา  
พอเพลงนี้เล่น เลยทำให้นึกถึง mv ขึ้นมาได้ ตอนแรกก็งงๆนะ จะยังไม่ขอูดถึงเนื้อเพลงนะคะ วิเคราะห์แต่ mv โดย mv จะมีเนื้อหาถึงการเติบโตของสาวๆค่ะ จะว่าไปต้องเรียกว่า การเดินทางของความฝันของสาวมากกว่า (แต่จริงๆก็คิดว่ามันน่าจะเป็นคอนเซปต์ขนมของ pico ด้วยแหละนะ ^^!) ฉากแรกที่สามสาวเดินไปจะสังเหตว่าบิลบอร์ดด้านหลังเป็นรูปอื่น หลังจากนั้นก็เป็นตอนที่สามสาวใส่ชุด mv เพลง electro world เป็นการสื่อถึงว่าสาวๆเริ่มดังแล้ว มีคนรู้จักแล้ว (แต่ทำไมใช้ชุดของ electro world ก็ไม่ทราบค่ะ จะว่าเพราะช่วงเวลานั้นกำลังโปรโมตอัลบั้มนี้อยู่ก็ได้) ก็มีบิลบอร์ด(ขายของ)อัลบั้ม GAME หลังจากนั้นก็เป็นสาวๆที่ใส่แว่นดำเหมือนเป็นเซเลป ฮา น่าจะสื่อถึงว่าสาวๆเริ่มังจนเวลาออกไปไหนก็ต้องใส่แว่นดำพรางตัวค่ะ จนไปถึงบิลบอร์ดเป็นสาวๆโฆษณาขนม pino (เริ่มมีชื่อเสียงจนมีงานโฆษณาเข้ามา) จนสุดท้ายได้ไปออกรายการเพลงค่ะ